วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554



ความเป็นมาของขนมปังในประเทศไทย
121ae1   ขนมปังเป็นอาหารที่ไม่ใช่ขนม สมัยอยุธยาตอนที่ชาวยุโรปมาอยู่กันมาก นำแป้งสาลีเข้ามาด้วย ทำขนมปังกินกันตามภาษาคนคิดถึงบ้าน ยังติดการกินอยู่แบบฝรั่ง ที่กินขนมปัง มันฝรั่ง ไม่ได้หุงข้าวกินกันแบบบ้านเรา เพราะข้าวสาลีหุงได้ แต่กินไม่ได้ เพราะมันจะเละ จนไม่น่ากิน และพกพาไปเป็นสะเบียงลำบาก สมัยก่อนไม่มีถุงพลาสติก กล่องพลาสติก ขนมปังจึงเป็นวิธีการกินที่ชาญฉลาด เพราะแห้ง เบา และเก็บได้นาน หากห่อผ้าแห้งไว้สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน 
  คำว่าขนมปัง ไทยรับมาตรงๆจากภาษาฝรั่งเศสคือ " Pan " อ่านว่า " แปง " คนไทยเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นอาหารหลักได้ จึงเรียกว่าขนม เรียกติดปากมาตลอดว่า ขนมปัง เอ้า ขนมก็ขนม 
ขนมปังที่คนไทยคุ้นเคยที่สุด เห็นจะเป็นขนมปังแถว สมัยก่อนเรียก ขนมปังปอนด์ เจ้าตลาดสมัยก่อนคือ ไซเลอร์ ปัจจุบันแบรนด์นี้ไม่มีแล้ว ลองลงมาก็มีแบรนด์ไทย ตรา " AA " ซึ่งหายจากตลาดไปเช่นกัน 
ชาวฝรั่งเศสนิยมทำขนมปังเป็นเส้นยาวๆ ชาวโลกเรียกว่า French Bread ยาวประมาณ 50 ซม. ผิวนอกแข็งfrench-breadมาก ทุบหัวคนเจ็บ คนฟันไม่ดีห้ามกัดตรงๆ รสชาติจืดๆ ไม่ใส่น้ำตาล ชาวฝรั่งเศสมีรสนิยมในการทำขนมปังมาก ดูแล้วน่าบริโภคไปหมด คนเวียดนามได้สูตรการทำ ขนมปังจากฝรั่งเศส ทำขนมปังเนื้อแน่น ไม่อ่อนพริ้วแบบขนมปังไทย ของเราคงจะหนักผงฟูกระมัง ชอบกันนักของฟูๆ 
ชาวอังกฤษชอบทำขนมปังเป็นก้อนกลม ขนาดประมาณ 12 ซม. มีแบบนุ่มและแบบแข็ง แบบนุ่มเรียกว่าBreakfast Roll รับประทานเป็นอาหารเช้า ตื่นนอนใหม่ๆเหงือกยังไม่อยู่ตัว เคี้ยวของนุ่มๆไปก่อน 
orange_rolls_2แบบแข็งเรียกว่า Dinner Roll รับประทานกับอาหารมื้อเย็น แข็งมาก บริหารเหงือกดีมาก เวลาเสริฟ 
bran dinner rollsจะเสริฟขนมปังด้านซ้าย เรียกว่า ซ้ายใครขวามัน หากใครคว้าด้านขวา โต๊ะนั้นต้องขวาหมด คือผิดหมดทั้งโต๊ะ และยังชอบทำขนมปังสะโคน สำหรับกินกับน้ำชาตอนบ่าย มีความสุขกันจริงๆนะ บ่ายๆเราต้องไปรับลูก พวกเขานั่งดื่มน้ำชาชาวแดนิชชอบของหวานๆ สาวแดนิชจุงอ้วนฉุ ขนมปังแนวเขาจะออกหวานมาก เราเรียกว่า Danish Bread นานๆทานทีก็อร่อย ทานบ่อยๆเลี่ยนมาก 
  ชาวเยอรมันทำขนมปังหลายแนวมาก มีทั้งเป็นแท่ง เป็นก้อน มีก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ และก้อนยักษ์กินได้ทั้งตำบล และมีแบบขดเป็นวง 2 วง เรียกว่า Pretzel ผมเคยถามเพื่อนชาวเยอรมันว่าทำไมทำเป็น 2 วงแบบนี้ เขาบอกว่า ก่อนนั้นที่อาหารการกินขาดแคลน ทำเป็นก้อนตันๆไม่พอแบ่ง จึงทำเป็นเส้นเล็กๆขดเป็นวง แต่มีอุบาย หลอกเด็กว่าการทำเป็นวง 2 วง ทำให้สามารถเห็นดวงจันทร์ได้ 2 ดวง 
pretzel   ชาวญี่ปุ่นเรียกขนมปัง ว่า " ปัง " ตรงตัว และทำขนมปังทุกแบบที่มีในโลก หากเข้าร้านขนมปัง ญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมายในประเทศไทย จะพบขนมปังเป็นร้อยชนิด ดูลานตา ไม่รู้จะลองอะไรก่อนดี 
  บ้านเราเมืองร้อนไม่จำเป็นต้องกินไขมันมาก ควรเลือกบริโภคขนมปังที่ไม่มีครีม หรือมีแต่น้อย หากกินเค็กหนึ่งชิ้น คิดได้ว่าเค็กเป็นเชื้อเพลิงชนืดหนึ่ง ได้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ คุณต้องวิ่ง 840 เมตร ถึงจะเผาไอ้เจ้าเชื้อเพลิงนี้หมดไป ไม่ไปสะสมที่หน้าท้อง 
  ขนมปัง เป็นขนมอบชนิดหนึ่ง ที่ได้จากการใช้ยีสต์ โดยมีส่วนผสมหลัก คือ แป้งสาลี ยีสต์ เกลือ น้ำ และส่วนผสม อื่น ๆ เช่น ไข่ น้ำตาลนม เนย ผลไม้ ฯลฯ  เป็นส่วนผสมที่เกิดจากการนวดผสมรวมกัน ทำให้เกิดขนมปังชนิดต่าง ๆ มากมาย เช่น ขนมปังหวาน ขนมปังผลไม้เป็นต้น 
ขั้นตอนในการทำขนมปัง 
ชนิดของขนมปัง ขนมปังที่มีขายในท้องตลาดบ้านเรา มีมากมายหลายชนิดหลายรูปแบบ  ตามแต่ร้านผลิตจะทำผลิตภัณฑ์ออกขาย แต่ขนมปังเหล่านั้นสามารถแยกได้ตามชนิดของขนมปัง คือ
1. ขนมปังแซนด์วิช , ขนมปังปอนด์ขนมปังชนิดนี้  จัดเป็นขนมปังที่มีปริมาณไขมันน้อย นิยมใช้ทำแซนด์วิช  มีลักษณะเป็นแท่งโดยใช้พิมพ์ขนาดยาวแคบเพื่อบังคับรูปร่างและปริมาตรของโดให้เสมอกันทั้งสองข้าง มีเนื้อละเอียดนุ่ม 
charoenphan_pung14_3
2. ขนมปังฝรั่งเศส 
ขนมปังชนิดนี้  จัดเป็นขนมปังที่มีปริมาณไขมันต่ำประมาณ 0.3 % แป้งที่ใช้ทำต้องมีปริมาณกลูเต้นสูงเพื่อที่จะสามารถทนทานต่อการหมักได้ โดที่ผสมปั้นเป็นรูปร่างแล้วจะต้องทาผิวด้วยน้ำ จึงตัดให้เป็นรอยเฉียงขวางบนก้อนโดด้วยมีดโกนคม ๆ  ก่อนที่จะนำไปอบให้แห้งและกรอบผิวนอก  ควรมีไอน้ำฉีดเข้าตู้อบก่อนจะนำโดเข้าอบ 
18-20051116111159
3. ซอฟท์โรล 
          ซอฟท์โรลทำจากโดที่มีความเข้มข้นสูง  จะมีไขมันและน้ำตาล 12 - 15 % ของแป้ง โรลที่อบได้จะมีรสหวานนุ่ม และเนี้อละเอียด  ซอฟท์โรลจะมีการพักตัวเพื่อให้ขึ้นฟูเต็มที่ วางก้อนโดให้ห่างกันในถาดอบเพื่อไม่ให้โรลติดกันเมื่ออบแล้ว ซึ่งเป็นลักษณะของโรลประเภทนี้ เช่น แฮมเบเกอร์ ฮอทดอท 
10noeat_00001
4. ขนมปังหวาน 
ขนมปังหวานมีหลายชนิด เช่น ขนมปังลูกเกด ขนมปังไส้ต่าง ๆ คอฟฟี่เค้ก ฯลฯ ขนมปังหวานจะต่างจากขนมปังจืดที่ส่วนผสม  เพราะโดของขนมปังหวานจะมีสูตรเข้มข้นกว่าโดของขนมปังจืด  โดยมีประมาณน้ำตาลนม  ไขมัน  ไข่  สูงกว่าขนมปังจืด   ขนมปังหวานจากสูตรเดียวกันสามารถดัดแปลงให้เกิดเป็นขนมปังหวานมากมายหลายชนิด  โดยกำหนดรูปร่างและไส้ให้แตกต่างกัน  แล้วเรียกชื่อตามรูปร่างหรือไส้ของขนมปังชนิดนั้น ๆ 

1211431982

ที่มาของเว็บ http://pajjai4.blogspot.com/2010/11/bread-s-history.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น